วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557



ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมภาคอีสาน



ประเภทของภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคอีสาน
กลุ่มที่ ๑ คติความคิด ความเชื่อ และหลักการพื้นฐานขององค์แห่งความรู้วิถีชีวิตของชาวอีสานนั้นผูกพนักกับความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภูต ผีบรรพบุรุษ และดวงดาว การจะทำการสิ่งใดๆ จึงต้องมีพิธีรีตอง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และครอบครัว หลายๆ เรื่องเป็นกุศโลบายในการสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ บางเรื่องก็เพื่อความสบายใจ ปลอดโปร่ง คลายกังวล และในยุคนี้ หลายๆ พิธีกรรมก็ยังคงรักษาสืบเนื่องกันมา มิได้ขาด

        ความเชื่อเรื่องฤกษ์งาม-ยามดี  หมายถึงเวลาที่มีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของคน โดยเฉพาะเวลาประกอบพิธีต่างๆ ถ้าทำสิ่งใดไม่มีฤกษ์ยามย่อมจะติดขัด ความเชื่อของคนเชื่อว่า ฤกษ์นอกจากจะช่วยให้อยู่ดีกินดี ยังมีผลในการสร้างความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจซึ่งฤกษ์ยามที่ควรทำรู้จัก เช่น
ดิถีฤกษ์ห้ามกระทำมงคล
สงฆ์ ๑๔  นารี ๑๑ สมรส ๗ เผาศพ ๑๕ นั้น ไม่ดี ห้ามกระทำการเด็ดขาด
สงฆ์ ๑๔  หมายถึง วันข้างขึ้นหรือข้างแรม ๑๔ ค่ำการกระทำกิจการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีกรรม
นารี ๑๑ หมายถึง วันข้างขึ้นข้างแรม ๑๑ ค่ำการท างานมงคลที่เกี่ยวข้องกับสตรีทุกเภททุกวัย ไม่ควรกระทำในวันนี้
สมรส ๗ การทำพิธีมงคลสมรสก็มีข้อห้ามมิให้กระทำในวันข้างขึ้นหรือข้างแรม ๗ ค่ำ โดยเฉพาะถ้าเป็นข้างขึ้น ๗ ค่ำ ตรงกับวันศุกร์ห้ามเด็ดขาด
เผาศพ ๑๕ การเผาศพหรือปลงศพ ก็มีข้อห้ามไม่ให้กระทำในวันข้างขึ้นหรือข้างแรม ๑๕ ค่ำยิ่งถ้าไปตรงกับวันศุกร์ ๑๕ ค่ำ โบราณท่านห้ามเด็ดขาดเพราะตรงกับวันปลงพระศพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



ความเชื่อเรื่องการเพาะปลูกข้าว
การทำนาให้ได้ผลดีนั้นจะต้องถือปฏิบัติเคารพบูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวบ้านแต่ละท้องถิ่น เทพเจ้า เทวดาอารักษ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำนาก็จะมีหน้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งการปฏิบัติบูชาเซ่นไหว้ก็จะทำในโอกาสหรือวาระต่าง ๆ กันสำหรับคนอีสานแล้วจะยึดถือเทวดา ภูตผี ดังนี้

ตาแฮก หรือ ผีตาแฮก
ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นผีเฝ้าไร่นา เมื่อชาวบ้านเข้าหักร้างถางพง เพื่อแปรสภาพที่ดินไปเป็นที่นา พวกเขาจะทำพิธีเชิญผีตาแฮกตนหนึ่งมาเป็นผู้เฝ้ารักษาที่นาและข้าวกล้า แต่ละปีเจ้าของนาจะต้องทำพิธีเซ่นสังเวยก่อนลงไถนา และเมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว จะต้องแบ่งข้าวสี่เกวียนให้แก่ผีตาแฮกด้วย



แถน
เป็นเทวดาหรือผีฟ้าอยู่บนสวรรค์ มีอำนาจบันดาลให้เกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ แก่มนุษย์ สัตว์ และพืชพันธุ์ธัญญาหารบนโลกได้ ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือแถนมาก ยามทุกข์ร้อนสิ่งใด มักจะบนบานให้แถนช่วยเหลือ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำนา คือ ชาวบ้านเชื่อว่า แถนมีอำนาจสั่ง ให้ฝนตกได้ แต่ละปี จึงมีพิธีจุดบั้งไฟบูชาแถน เพื่อให้แถนสั่งให้ผู้มีหน้าที่ทำให้ฝนตก เช่น นาค พระพิรุณ ประทานฝนลงมาให้



นางธรณี
ชาวบ้านเชื่อกันว่า นางธรณีหรือแม่ธรณีเป็นเทพเจ้าแห่งพื้นดิน ก่อนจะไถนาหรือปลูก ข้าว ต้องบอกกล่าวขออนุญาตต่อนางเสียก่อน และทำพิธีเซ่นไหว้ด้วยพาหวาน (มีข้าวนึ่ง ไข่ไก่) 1 ขา และขอให้นางธรณีช่วยปกป้องรักษาข้าวในนา อย่าให้มีศัตรูมาเบียดเบียน และขอให้ได้ทำนา ด้วยความสะดวกสบายตลอดฤดูกาล



ความเชื่อการสู่ขวัญ หรือ การสูตรขวน
การเสียขวัญย่อมจะส่งผลให้คนทำอะไรไม่ได้ ดีไม่ดีถึงกับเจ็บป่วยและอาจถึงตายก็ได้ ดังนั้นการสู่ขวัญจึงเป็นวิธีกรรมหนึ่งที่เรียกชีวากลับมาสู่ชีวิต ถ้าชีวิตมีชีวาก็จะสามารถทำอะไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกี่ยวกับขวัญนี้มีการดำเนินการ เพื่อบำรุงขวัญ

กลุ่มที่ ๒ ศิลปะ วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียม ประเพณี
วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคอีสานเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทย ลาว เขมร ภาคอีสานมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่โดดเด่น เช่น อาหาร ภาษา ดนตรีหมอลำ และศิลปะการฟ้อนรำที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว


ฮีตสิบสองคองสิบสี่  ฮีต มาจากคำว่า จารีต หมายถึงสิ่งที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณีที่ดีงาม ในหนึ่งปี ฮีตสิบสองเป็นประเพณีที่ส่งเสริมให้คนในชุมชน ได้ออกมาร่วมกิจกรรมพบปะสังสรรค์กัน เพื่อความสนุกสนานรื่นเริงและเพื่อความสมานสามัคคีมีความรักใคร่กัน ของคนในท้องถิ่น เช่น
เดือนอ้าย – บุญเข้ากรรม
เดือนยี่ - บุญคูณลาน
เดือนสาม – บุญข้าวจี่
เดือนสี่ – บุญเผวด
 เดือนห้า - บุญสงกรานต์
เดือนหก – บุญบั้งไฟ
เดือนเจ็ด
บุญซำฮะ
เดือนแปด - บุญเข้าพรรษา
เดือนเก้า – บุญข้าวประดับดิน
เดือนสิบ - บุญข้าวสาก
เดือนสิบเอ็ด – บุญออกพรรษา
เดือนสิบสอง – บุญกฐิน

วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย
เอกลักษณ์ของเรือนไทยภาคอีสาน มีลักษณะเด่นอยู่ ๓ ประเภท คือ
๑. ไม่นิยมทำหน้าต่างทางด้านหลังตัวเรือน ถ้าจะท่าจะเจาะเป็นช่องเล็กๆ พอให้ยื่นศีรษะออกไปได้เท่านั้น
๒. ไม่นิยมต่อยอดป้านลมให้สูงขึ้นไป เหมือนเรือนของชาวไทยล้านนาที่เรียกว่า
'กาแล'
๓. ไม่นิยมต้องเสาเรือนบนตอม่อเหมือนเรือนของชาวไทยมุสลิมทางภาคใต้ ด้วยเหตุที่ชาวไทยภาค อีสานปลูกเรือนด้วยการฝังเสา จึงไม่มีการตั้งบนตอม่อ

วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารการกิน
อาหารหลักของชาวอีสาน คือ ข้าวเหนี่ยวส่วนอาหารจานหลักเกี่ยวกับข้าวเหนี่ยว คือ ปลาร้า ซึ่งเป็นปลาที่นำมาหมักกับเกลื
อ และรำหรือข้าวคั่ว นำมาปรุงเป็นอาหารประเภทต่างๆ เช่น น้ำพริกปลาร้า ข้าวจี่ ผัดหมี่โคราช แกงอ่อม


แกงอ่อม
ข้าวจี่
น้ำพริกปลาร้า




ที่มา www.tatc.ac.th/files/110528099292991_13112420205651.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น